เหยี่ยวหูดำ Black-eared Kite

Photographer :
ธานี ทองงาม Thanee Thongngam

 

ชื่อสามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อไทย การรายงาน สถานภาพตามฤดูกาล
Black-eared Kite Milvus lineatus เหยี่ยวหูดำ A N

เหยี่ยวหูดำ มีชื่อวิทยาศษสตร์ว่า Milvus lineatus  คำว่า Milvus มาจากภาษาละตินคำว่า milvus ซึ่งหมายถึง “เหยี่ยว” ส่วนคำว่า lineatus มาจากภาษาละตินคำว่า lineatus ซึ่งหมายถึง “มีลายเส้น”

ดังนั้น คำว่า Milvus lineatus จึงหมายถึง “เหยี่ยวที่มีลายเส้น”

เหยี่ยวหูดำ (Black-eared Kite) เป็นนกล่าเหยื่อขนาดกลางชนิดหนึ่ง พบกระจายพันธุ์ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยเป็นนกอพยพมาในช่วงฤดูหนาว พบได้ทั่วประเทศ

ลักษณะ

เหยี่ยวหูดำเป็นนกที่มีลำตัวยาวประมาณ 40-45 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 400-500 กรัม ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะคล้ายกัน หัวและคอมีขนสีดำ ขนลำตัวสีน้ำตาลเข้ม ขณะบินลำตัวสีน้ำตาลเข้มตัดกับขนปีกบินด้านล่างสีขาว หางเว้าเป็นแฉก ขนคลุมหูสีดำเห็นได้ชัดเจน แข้งและตีนสีดำ

การกิน

เหยี่ยวหูดำเป็นนกกินสัตว์ขนาดเล็ก เช่น หนู นก งู กบ และจิ้งจก

การขยายพันธุ์

เหยี่ยวหูดำจะสร้างรังบนต้นไม้สูง วางไข่ครั้งละ 2-3 ฟอง ไข่ฟักออกเป็นตัวประมาณ 30-35 วัน ลูกนกจะบินได้เมื่ออายุประมาณ 40-45 วัน

สถานภาพ

เหยี่ยวหูดำเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในประเทศไทย มีสถานภาพเป็นสัตว์ป่าสงวน สาเหตุหลักที่ทำให้เหยี่ยวหูดำใกล้สูญพันธุ์ คือ การล่าเพื่อเอาขนและเนื้อ การสูญเสียแหล่งอาหาร และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความแตกต่างระหว่างเหยี่ยวหูดำกับเหยี่ยวดำ

เหยี่ยวหูดำและเหยี่ยวดำเป็นนกล่าเหยื่อที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่สามารถแยกความแตกต่างได้ดังนี้

  • เหยี่ยวหูดำมีขนคลุมหูสีดำเห็นได้ชัดเจน ขณะบินลำตัวสีน้ำตาลเข้มตัดกับขนปีกบินด้านล่างสีขาว หางเว้าเป็นแฉก
  • เหยี่ยวดำไม่มีขนคลุมหู ขณะบินลำตัวสีดำทั้งตัว หางเว้าเป็นแฉกลึก

นอกจากนี้ เหยี่ยวหูดำเป็นนกอพยพมาในช่วงฤดูหนาว ส่วนเหยี่ยวดำเป็นนกประจำถิ่น

1

2

3

4

5
เสียงร้อง
6
A : นกที่มีรายงานพบตามธรรมชาติในระยะ 50 ปีที่ผ่านมา

B : นกที่ไม่มีรายงานพบในธรรมชาติเป็นเวลาอย่างน้อย 50 ปี

C : นกต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย และสามารถปรับตัวให้อาศัยและขยายพันธุ์ได้เองในธรรมชาติ

D : นกที่พบในธรรมชาติแต่อาจเป็นนกที่หลุดจากกรงเลี้ยง

E : นกที่มีรายงานพบในอดีต แต่อาจเป็นการจำแนกชนิดผิดพลาด

F : นกที่เป็นประชากรผสมข้ามสายพันธุ์ และยังไม่มีรายงานของประชากรที่มีลักษณะแท้ตามชนิดดั้งเดิม

 

สถานภาพตามฤดูกาลของนกแต่ละชนิด

R : นกประจำถิ่น

N : นกที่อพยพเข้ามาช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ (ฤดูหนาว)

B : นกที่อพยพเข้ามาทำรังวางไข่

P : นกอพยพผ่านช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

V : นกพลัดหลง มีรายงานไม่เกิน 3 ครั้ง


ขอบคุณข้อมูลภาพถ่ายจาก https://ebird.org
ขอบคุณข้อมูลการกระจายพันธุ์และเสียงร้องจาก https://ebird.org

 

About The Author

More From Author

Leave a Reply

เนื้อหาน่าสนใจ