นกตีนเทียน   Black-winged Stilt

Photographer : © Vijay Kumar Sethi
ชื่อสามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อไทย การรายงาน สถานภาพตามฤดูกาล
Black-winged Stilt Himantopus himantopus นกตีนเทียน A R, N

นกตีนเทียน (Black-winged Stilt) เป็นนกลุยน้ำพบได้ทั่วไปในพื้นที่ภูมิอากาศร้อนถึงอบอุ่น เป็นนกสังคมมักพบเป็นฝูงขนาดเล็ก พบในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีน้ำตื้นและมักเป็นน้ำกร่อย มีลักษณะเด่นคือ ขายาวมากสีชมพูแดง ปากแหลมบางยาว และสีขนขาวดำตัดกัน

ลักษณะ

นกตีนเทียนเป็นนกชายเลนขนาดกลาง ตัวโตเต็มวัยมีลำตัวยาว 33–38 เซนติเมตร ปากบางแหลมและยาวตรงสีดำ หัว อก คอ ท้องและลำตัวขาว ปีกและลำตัวด้านบนดำ ขายาวมากสีชมพูแดง มีหน้าแข้งยาวสำหรับเดินลุยเลน มี 4 นิ้ว นิ้วเท้าหลังยกสูง 3 นิ้วเท้าหน้าติดกันเป็นพังผืด ขณะบินจะเหยียดขายาวพ้นหาง ตาสีแดง บางตัวอาจมีแถบสีเทาหรือดำที่หัวและท้ายทอย นกวัยรุ่นปีกสีน้ำตาล

ถิ่นที่อยู่

นกตีนเทียนพบได้ทั่วไปในพื้นที่ภูมิอากาศร้อนถึงอบอุ่น กระจายพันธุ์ตั้งแต่ทวีปยูโรไซบีเรีย และแอฟริกา ในประเทศไทยพบได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำจืดและน้ำกร่อย เช่น ทะเลสาบ หนองน้ำ ชายทะเล ป่าชายเลน เป็นต้น

อาหาร

นกตีนเทียนเป็นนกกินแมลงและสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น หนอน ปู กุ้ง ไรน้ำ แมลงน้ำ เป็นต้น มักหากินโดยการเดินลุยน้ำตื้นๆ และใช้ปากจิ้มลงไปในน้ำเพื่อหาอาหาร

การผสมพันธุ์

นกตีนเทียนทำรังบนพื้นดินใกล้แหล่งน้ำ โดยการขุดให้เป็นหลุมเล็กๆ รองด้วยใบหญ้าแห้งแต่ไม่มากนัก ไข่มีสีพื้นเป็นสีเขียวเข้ม หรือสีน้ำตาล มีจุดหรือลายสีเขียวหรือสีน้ำตาลแดง ในแต่ละรังมีไข่ 3-4 ฟอง ระยะเวลาฟัก 25-26 วัน

สถานะการอนุรักษ์

นกตีนเทียนจัดเป็นนกป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

พฤติกรรม

นกตีนเทียนเป็นนกสังคมมักพบเป็นฝูงขนาดเล็ก มักเดินลุยน้ำตื้นๆ หากิน บางครั้งก็บินโฉบจับแมลงบนผิวน้ำ นกตีนเทียนมีพฤติกรรมที่น่าสนใจในการหลอกล่อสัตว์นักล่าที่เข้ามาใกล้รัง โดยมันจะบินส่งเสียงร้อง และลงมาแกล้งทำท่า”ปีกหัก”บนพื้นในจุดที่ห่างออกไปจากรัง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจศัตรูให้ตามไป

ความน่าสนใจ

นกตีนเทียนเป็นนกที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย มีลักษณะโดดเด่นที่ขายาวมากสีชมพูแดง จึงเป็นนกที่ดึงดูดสายตาของผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี

1
2
3
4
5

 

A : นกที่มีรายงานพบตามธรรมชาติในระยะ 50 ปีที่ผ่านมา

B : นกที่ไม่มีรายงานพบในธรรมชาติเป็นเวลาอย่างน้อย 50 ปี

C : นกต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย และสามารถปรับตัวให้อาศัยและขยายพันธุ์ได้เองในธรรมชาติ

D : นกที่พบในธรรมชาติแต่อาจเป็นนกที่หลุดจากกรงเลี้ยง

E : นกที่มีรายงานพบในอดีต แต่อาจเป็นการจำแนกชนิดผิดพลาด

F : นกที่เป็นประชากรผสมข้ามสายพันธุ์ และยังไม่มีรายงานของประชากรที่มีลักษณะแท้ตามชนิดดั้งเดิม

 

สถานภาพตามฤดูกาลของนกแต่ละชนิด

R : นกประจำถิ่น

N : นกที่อพยพเข้ามาช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ (ฤดูหนาว)

B : นกที่อพยพเข้ามาทำรังวางไข่

P : นกอพยพผ่านช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

V : นกพลัดหลง มีรายงานไม่เกิน 3 ครั้ง


ขอบคุณข้อมูลภาพถ่ายจาก https://ebird.org
ขอบคุณข้อมูลการกระจายพันธุ์และเสียงร้องจาก https://ebird.org

ใส่ความเห็น