นกกระแตผีใหญ่ Great Thick-knee

Photographer : © Mainak Debnath
ชื่อสามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อไทย การรายงาน สถานภาพตามฤดูกาล
Great Thick-knee Esacus recurvirostris นกกระแตผีใหญ่ A R

นกกระแตผีใหญ่ (Great Thick-knee) เป็นนกในวงศ์นกกระแตผี (Burhinidae) พบได้ทั่วไปในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นกกระแตผีใหญ่มีความยาวประมาณ 55-60 เซนติเมตร มีลักษณะเด่นคือ ปากยาวโค้งเป็นตะขอ หัวและคอเป็นสีดำ มีแถบสีขาวจากดวงตาถึงท้ายทอย ลำตัวด้านบนเป็นสีเทา มีแถบสีขาวที่หัวไหล่และขนคลุมปีกแถวกลาง ลำตัวด้านล่าง คอขาว อกและท้องมีลายขีดสีเทา แข้งและตีนสีเขียวเหลือง ขณะบินมองเห็นแถบสีขาวและดำที่ขนปีกด้านบน

นกกระแตผีใหญ่เป็นนกที่หากินตามแหล่งน้ำจืดและน้ำกร่อย กินหอย ปู กุ้ง แมลง และสัตว์เล็ก ๆ เป็นอาหาร นกกระแตผีใหญ่จะเดินหาอาหารไปตามชายฝั่งหรือในน้ำ โดยจะใช้ปากที่เป็นตะขอเกี่ยวเหยื่อขึ้นมา

นกกระแตผีใหญ่เป็นนกที่ผสมพันธุ์แบบผัวเดียวเมียเดียว นกตัวผู้และตัวเมียจะสร้างรังร่วมกัน โดยรังเป็นหลุมขนาดเล็กที่ขุดบนพื้นดิน นกตัวเมียจะวางไข่ประมาณ 2-3 ฟอง ไข่มีสีน้ำตาลอ่อน นกตัวเมียจะฟักไข่ประมาณ 20-25 วัน ลูกนกจะฟักออกมาจากไข่ในสภาพไม่มีขนและตายังไม่ลืม นกตัวพ่อแม่จะป้อนอาหารลูกนกเป็นเวลาประมาณ 2-3 เดือน ลูกนกจะบินออกจากรังเมื่ออายุประมาณ 40-50 วัน

นกกระแตผีใหญ่เป็นนกที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ พวกมันช่วยควบคุมประชากรหอย ปู กุ้ง และสัตว์เล็ก ๆ ในแหล่งน้ำ

ลักษณะทั่วไป

  • ความยาวประมาณ 55-60 เซนติเมตร
  • ปากยาวโค้งเป็นตะขอ
  • หัวและคอเป็นสีดำ
  • มีแถบสีขาวจากดวงตาถึงท้ายทอย
  • ลำตัวด้านบนเป็นสีเทา
  • มีแถบสีขาวที่หัวไหล่และขนคลุมปีกแถวกลาง
  • ลำตัวด้านล่าง คอขาว อกและท้องมีลายขีดสีเทา
  • แข้งและตีนสีเขียวเหลือง

พฤติกรรม

  • เป็นนกที่หากินตามแหล่งน้ำจืดและน้ำกร่อย
  • กินหอย ปู กุ้ง แมลง และสัตว์เล็ก ๆ เป็นอาหาร

การขยายพันธุ์

  • เป็นนกที่ผสมพันธุ์แบบผัวเดียวเมียเดียว
  • นกตัวผู้และตัวเมียจะสร้างรังร่วมกัน
  • รังเป็นหลุมขนาดเล็กที่ขุดบนพื้นดิน
  • นกตัวเมียจะวางไข่ประมาณ 2-3 ฟอง
  • ไข่มีสีน้ำตาลอ่อน
  • นกตัวเมียจะฟักไข่ประมาณ 20-25 วัน
  • ลูกนกจะฟักออกมาจากไข่ในสภาพไม่มีขนและตายังไม่ลืม
  • นกตัวพ่อแม่จะป้อนอาหารลูกนกเป็นเวลาประมาณ 2-3 เดือน
  • ลูกนกจะบินออกจากรังเมื่ออายุประมาณ 40-50 วัน

สถานะการอนุรักษ์

  • จัดอยู่ในระดับ Vulnerable (VU) หรือมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

ปัจจัยคุกคาม

  • การสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย
  • การล่า

1
2
3
4
5

 

A : นกที่มีรายงานพบตามธรรมชาติในระยะ 50 ปีที่ผ่านมา

B : นกที่ไม่มีรายงานพบในธรรมชาติเป็นเวลาอย่างน้อย 50 ปี

C : นกต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย และสามารถปรับตัวให้อาศัยและขยายพันธุ์ได้เองในธรรมชาติ

D : นกที่พบในธรรมชาติแต่อาจเป็นนกที่หลุดจากกรงเลี้ยง

E : นกที่มีรายงานพบในอดีต แต่อาจเป็นการจำแนกชนิดผิดพลาด

F : นกที่เป็นประชากรผสมข้ามสายพันธุ์ และยังไม่มีรายงานของประชากรที่มีลักษณะแท้ตามชนิดดั้งเดิม

 

สถานภาพตามฤดูกาลของนกแต่ละชนิด

R : นกประจำถิ่น

N : นกที่อพยพเข้ามาช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ (ฤดูหนาว)

B : นกที่อพยพเข้ามาทำรังวางไข่

P : นกอพยพผ่านช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

V : นกพลัดหลง มีรายงานไม่เกิน 3 ครั้ง


ขอบคุณข้อมูลภาพถ่ายจาก https://ebird.org
ขอบคุณข้อมูลการกระจายพันธุ์และเสียงร้องจาก https://ebird.org

ใส่ความเห็น