X

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน Blue-eared Kingfisher

Photographer : © Iftiaque Hussain

 

 

ชื่อสามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อไทย การรายงาน สถานภาพตามฤดูกาล
Blue-eared Kingfisher Alcedo meninting นกกะเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน A R

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน (Blue-eared Kingfisher) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alcedo meninting คำว่า “Alcedo” เป็นชื่อสกุลของนกกระเต็นขนาดเล็กในวงศ์ Alcedinidae ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ มีลำตัวขนาดเล็ก ปากยาวเรียว และมักพบหากินอยู่ตามแหล่งน้ำ คำว่า “meninting” เป็นภาษาชวาแปลว่า “สีน้ำเงิน” ซึ่งหมายถึงสีสันของนกกระเต็นน้อยที่มีสีน้ำเงิน

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินเป็นนกชนิดหนึ่ง ในวงศ์นกกระเต็น (Alcedinidae) พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะทั่วไปคล้ายนกกระเต็นน้อยธรรมดา แต่มีสีสันสดใสกว่า ตัวผู้จะมีหัวและปีกสีน้ำเงินเข้ม กลางหลังสีฟ้าอ่อน ท้องสีแดงเข้ม ปากสีดำ ส่วนตัวเมียจะมีสีสันจางกว่า ตัวผู้จะมีแถบสีส้มที่แก้มและข้างคอ

ถิ่นอาศัยของนกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินพบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชอบอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำจืดทั่วไป เช่น ลำธาร แม่น้ำ บึงน้ำ ป่าชายเลน ฯลฯ

อาหารของนกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินกินปลาเป็นอาหารหลัก บางครั้งก็กินแมลงและสัตว์น้ำขนาดเล็กอื่นๆ ด้วย

การสืบพันธุ์ของนกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินผสมพันธุ์ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ทำรังเป็นโพรงดินตามชายฝั่งแม่น้ำ โดยอาศัยการขุดดินเข้าไปเป็นโพรง ไข่สีขาว ในแต่ละรังมีไข่ 4-6 ฟอง ระยะฟักไข่ 16-17 วัน

สถานะการอนุรักษ์ของนกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินเป็นนกที่พบได้ทั่วไปและไม่ได้อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ IUCN จัดให้อยู่ในสถานะเป็นกังวลน้อย (Least Concern)

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน
สถานภาพ นกประจำถิ่น พบไม่บ่อยและปริมาณไม่มากนัก ชนิดย่อย collarti พบทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉี่ยงเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ ชนิดย่อย verreauxii พบทางภาคใต้ตั้งแต่คอคอดกระลงไป

กฎหมายจัดนกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินทุกชนิดย่อยเป็นสัตว์ป้าคุ้มครอง

 

1

2

3

4

5
เสียงร้อง
6
A : นกที่มีรายงานพบตามธรรมชาติในระยะ 50 ปีที่ผ่านมา

B : นกที่ไม่มีรายงานพบในธรรมชาติเป็นเวลาอย่างน้อย 50 ปี

C : นกต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย และสามารถปรับตัวให้อาศัยและขยายพันธุ์ได้เองในธรรมชาติ

D : นกที่พบในธรรมชาติแต่อาจเป็นนกที่หลุดจากกรงเลี้ยง

E : นกที่มีรายงานพบในอดีต แต่อาจเป็นการจำแนกชนิดผิดพลาด

F : นกที่เป็นประชากรผสมข้ามสายพันธุ์ และยังไม่มีรายงานของประชากรที่มีลักษณะแท้ตามชนิดดั้งเดิม

 

สถานภาพตามฤดูกาลของนกแต่ละชนิด

R : นกประจำถิ่น

N : นกที่อพยพเข้ามาช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ (ฤดูหนาว)

B : นกที่อพยพเข้ามาทำรังวางไข่

P : นกอพยพผ่านช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

V : นกพลัดหลง มีรายงานไม่เกิน 3 ครั้ง


ขอบคุณข้อมูลภาพถ่ายจาก https://ebird.org
ขอบคุณข้อมูลการกระจายพันธุ์และเสียงร้องจาก https://ebird.org

 

admin: